วันที่ 8 ต.ค. ร.ต.อ.สุพัตร บุญเรือง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายงัดบ้านที่บ้านเลขที่ 333 หมู่ 5 บ้านหนองหัวหมู ต.นาดี อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบ พ.ต.ท.วาทชัย สัมนวนชี อายุ 51 ปี ตำแหน่ง สวป.สภ.โพนพิสัย จ.หนองคาย เจ้าของบ้านยืนรออยู่ ก่อนพาเจ้าหน้าที่ไปชี้จุดที่คนร้ายใช้เป็นช่องทางในการเข้าไปขโมยทรัพย์สิน โดยคนร้ายใช้เสาปูนพาดไปยังผนังหลังบ้าน จากนั้นเปิดหน้าต่างแล้วใช้ของแข็งงัดเหล็กดัดจนพัง แล้วปีนเข้าไปรื้อค้นหาทรัพย์สินตามลิ้นชักต่างๆ ภายในห้องนอน โดยทรัพย์สินที่คนร้ายขโมยไปเป็นพระพุทธรูปบูชา 3 องค์ มีหลวงพ่อพระใสหน้าตักกว้าง 7 นิ้ว 1 องค์, หลวงพ่อเปิ่นหน้าตักกว้าง 5 นิ้ว 1 องค์, หลวงปู่ขาว หน้าตัก 3 นิ้ว 1 องค์, พระเครื่อง อีกกว่า 150 องค์ และคนร้ายได้เข้าไปขโมยกระปุกออมสินขนาดใหญ่ของหลาน มีเงินประมาณ 10,000 บาท และหัวแหวนเพชรตาแมว ซึ่งเป็นมรดกที่พ่อให้ไว้ เครื่องประดับอื่นๆ มูลค่า 5,000บาท รวมทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปเป็นเงิน 60,000บาท
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบ พ.ต.ท.วาทชัย สัมนวนชี อายุ 51 ปี ตำแหน่ง สวป.สภ.โพนพิสัย จ.หนองคาย เจ้าของบ้านยืนรออยู่ ก่อนพาเจ้าหน้าที่ไปชี้จุดที่คนร้ายใช้เป็นช่องทางในการเข้าไปขโมยทรัพย์สิน โดยคนร้ายใช้เสาปูนพาดไปยังผนังหลังบ้าน จากนั้นเปิดหน้าต่างแล้วใช้ของแข็งงัดเหล็กดัดจนพัง แล้วปีนเข้าไปรื้อค้นหาทรัพย์สินตามลิ้นชักต่างๆ ภายในห้องนอน โดยทรัพย์สินที่คนร้ายขโมยไปเป็นพระพุทธรูปบูชา 3 องค์ มีหลวงพ่อพระใสหน้าตักกว้าง 7 นิ้ว 1 องค์, หลวงพ่อเปิ่นหน้าตักกว้าง 5 นิ้ว 1 องค์, หลวงปู่ขาว หน้าตัก 3 นิ้ว 1 องค์, พระเครื่อง อีกกว่า 150 องค์ และคนร้ายได้เข้าไปขโมยกระปุกออมสินขนาดใหญ่ของหลาน มีเงินประมาณ 10,000 บาท และหัวแหวนเพชรตาแมว ซึ่งเป็นมรดกที่พ่อให้ไว้ เครื่องประดับอื่นๆ มูลค่า 5,000บาท รวมทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปเป็นเงิน 60,000บาท
พ.ต.ท.วาทชัย ให้การว่า ได้สร้างบ้านหลังนี้ไว้นานแล้ว ปกติแล้วตนกับภรรยาจะไปทำงานอยู่ที่ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย และให้หลานชายพักอาศัยบ้านหลังนี้คนเดียว และ 2-3 สัปดาห์ ตนจะกลับมาบ้าน เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาได้ว่าจ้างให้ช่างมาซ่อมแซมบ้าน ในช่วงที่ช่างมาทำงานก็จะไปๆ มาๆ ดูแลบ้านตลอด และเมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้กลับไปทำงานคอยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่มาชมบั้งไฟพญานาค ที่ อ.โพนพิสัย โดยมีภรรยาและหลานเดินทางไปด้วย บ้านหลังนี้จึงไม่มีคนอยู่ และวันนี้ตนกลับมาส่งหลานที่บ้านก็พบว่าบ้านโดนงัด และคนร้ายได้ขโมยทรัพย์สินไปดังกล่าว สำหรับบ้านหลังนี้ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2557 ก็เคยถูกคนร้ายงัดมาแล้วครั้งหนึ่ง ได้ทรัพย์สินไปเป็นธนบัตรเก่าที่ตนเองสะสมเอาไว้
ร.ต.อ.สุพัตร เปิดเผยว่า คาดว่าคนร้ายอาจจะดูราดราวมาก่อน ว่าบ้านหลังนี้ไม่มีคนอยู่ จึงฉวยโอกาสลงมือก่อเหตุ ด้านเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบและเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายแล้วพบว่า คนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน และเป็นมืออาชีพ เพราะจากการตรวจลายนิ้วมือพบว่าคนร้ายสวมถุงมือเข้ามาก่อเหตุ ซึ่งทางชุดสืบสวนจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพื่อหาเบาะแสคนร้ายต่อไป
No comments:
Post a Comment