แหล่งข่าวในรัฐบาลสหรัฐ และสหภาพยุโรปอ้างกำลังมีการหารือ เพื่อเตรียมคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกองทัพเมียนมา ขณะที่เกิดเหตุเรือผู้ลี้ภัยชาวโรอีนจาอับปางระหว่างข้ามแม่น้ำไปบังกลาเทศ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 9 ต.ค. โดยอ้างจากรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ส ซึ่งสัมภาษณ์แหล่งข่าวด้านการทูตทั้งในกรุงวอชิงตัน เมืองย่างกุ้ง และในยุโรป ว่ารัฐบาลวอชิงตันและสหภาพยุโรป ( อียู ) กำลังมีการประชุมเพื่อพิจารณามาตรการลงโทษเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกองทัพเมียนมา เพื่อตอบโต้สถานการณ์ด้านความมั่นคงและมนุษยธรรมรอบล่าสุดในรัฐยะไข่ ที่ยืดเยื้อตั้งแต่ปลายเดือนส.ค.ที่ผ่านมา และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 500 คนแล้ว
ทั้งนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของอียูมีกำหนดจัดการประชุมเกี่ยวกับสถานการณ์รัฐยะไข่ ในวันที่ 16 ต.ค. นี้ โดยนางยูลลา ทอร์เนส รัฐมนตรีด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนาของเดนมาร์ก กล่าวว่ารัฐบาลโคเปนเฮเกนกำลังผลักดันเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม เพื่อเพิ่มแรงกดดันให้แก่กองทัพเมียนมา
ขณะที่แหล่งข่าวในรัฐบาลวอชิงตันเผยว่ากำลังมีการหารือเป็นการภายในเกี่ยวกับการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อพล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา และเจ้าหน้าที่ระดับผู้บัญชาการอีกหลายนาย โดยมาตรการอาจเป็นการอายัดทรัพย์สินในสหรัฐ จำกัดการออกวีซ่า และห้ามพลเมืองอเมริกันติดต่อทำธุรกรรมร่วมกับนายทหารกลุ่มนี้ อย่างไรก็ตาม นายแพทริก เมอร์ฟีย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐด้านกิจการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของสภาผู้แทนราษฎร เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่ารัฐบาลวอชิงตัน "จะยังไม่ดำเนินการมดก็ตามในตอนนี้" ที่อาจยิ่งส่งผลให้สถานการณในรัฐยะไข่บานปลาย
ในเวลาเดียวกัน เกิดเหตุเรือผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาลำหนึ่งอับปางกลางแม่น้ำนาฟ ซึ่งเป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างภาคตะวันตกของเมียนมากับภาคตะวันออกของบังกลาเทศ เมื่อคืนวันอาทิตย์ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน แต่ยังสูญหายอีกหลายสิบคน โดยมีรายงานว่าจำนวนผู้โดยสารแออัดอยู่บนเรือประมาณ 80-100 คน.
คลิปประกอบ : Al Jazeera English
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 9 ต.ค. โดยอ้างจากรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ส ซึ่งสัมภาษณ์แหล่งข่าวด้านการทูตทั้งในกรุงวอชิงตัน เมืองย่างกุ้ง และในยุโรป ว่ารัฐบาลวอชิงตันและสหภาพยุโรป ( อียู ) กำลังมีการประชุมเพื่อพิจารณามาตรการลงโทษเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกองทัพเมียนมา เพื่อตอบโต้สถานการณ์ด้านความมั่นคงและมนุษยธรรมรอบล่าสุดในรัฐยะไข่ ที่ยืดเยื้อตั้งแต่ปลายเดือนส.ค.ที่ผ่านมา และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 500 คนแล้ว
ทั้งนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของอียูมีกำหนดจัดการประชุมเกี่ยวกับสถานการณ์รัฐยะไข่ ในวันที่ 16 ต.ค. นี้ โดยนางยูลลา ทอร์เนส รัฐมนตรีด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนาของเดนมาร์ก กล่าวว่ารัฐบาลโคเปนเฮเกนกำลังผลักดันเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม เพื่อเพิ่มแรงกดดันให้แก่กองทัพเมียนมา
ขณะที่แหล่งข่าวในรัฐบาลวอชิงตันเผยว่ากำลังมีการหารือเป็นการภายในเกี่ยวกับการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อพล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา และเจ้าหน้าที่ระดับผู้บัญชาการอีกหลายนาย โดยมาตรการอาจเป็นการอายัดทรัพย์สินในสหรัฐ จำกัดการออกวีซ่า และห้ามพลเมืองอเมริกันติดต่อทำธุรกรรมร่วมกับนายทหารกลุ่มนี้ อย่างไรก็ตาม นายแพทริก เมอร์ฟีย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐด้านกิจการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ของสภาผู้แทนราษฎร เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่ารัฐบาลวอชิงตัน "จะยังไม่ดำเนินการมดก็ตามในตอนนี้" ที่อาจยิ่งส่งผลให้สถานการณในรัฐยะไข่บานปลาย
ในเวลาเดียวกัน เกิดเหตุเรือผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจาลำหนึ่งอับปางกลางแม่น้ำนาฟ ซึ่งเป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างภาคตะวันตกของเมียนมากับภาคตะวันออกของบังกลาเทศ เมื่อคืนวันอาทิตย์ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน แต่ยังสูญหายอีกหลายสิบคน โดยมีรายงานว่าจำนวนผู้โดยสารแออัดอยู่บนเรือประมาณ 80-100 คน.
คลิปประกอบ : Al Jazeera English
No comments:
Post a Comment